การแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.) เป็นกลไกสำคัญที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้แต่ละระดับขององค์กรมีผู้รับผิดชอบในด้านความปลอดภัยที่เหมาะสมกับหน้าที่และอำนาจของตน โดยเฉพาะในระดับ จป.บริหารและ จป.หัวหน้างาน ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการทำงานและทิศทางของระบบความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ
หลายองค์กรโดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมและก่อสร้าง มักพบปัญหาการเข้าใจผิดเกี่ยวกับบทบาทของ จป. ทั้งสองระดับ ส่งผลต่อการแต่งตั้งบุคคลไม่ตรงตำแหน่ง และอาจนำไปสู่การถูกลงโทษทางกฎหมายในภายหลัง
ความสำคัญของการแบ่งบทบาท จป. ตามระดับหน้าที่
การกำหนด จป. ตามระดับชั้นในองค์กร ไม่ใช่เพียงแค่ข้อบังคับทางกฎหมาย แต่เป็นหลักการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในเรื่องของการ บูรณาการความปลอดภัยเข้ากับสายการบริหารและสายการผลิต ดังนี้:
- 
จป.บริหาร มีบทบาทในการ กำหนดทิศทางและนโยบาย ของระบบความปลอดภัยในองค์กร ตั้งแต่นโยบายการลงทุนในระบบป้องกันอุบัติเหตุ ไปจนถึงการสนับสนุนทรัพยากรและบุคลากร 
- 
จป.หัวหน้างาน ทำหน้าที่เป็น ผู้ควบคุมแนวปฏิบัติในระดับปฏิบัติการ ทำให้มั่นใจว่าลูกจ้างจะปฏิบัติตามแนวทางความปลอดภัยที่องค์กรกำหนดไว้ 
หากเปรียบกับระบบขับเคลื่อนองค์กร: จป.บริหาร คือผู้กำหนดทิศทาง, ส่วน จป.หัวหน้างาน คือผู้ขับเคลื่อนและควบคุมให้ทุกคนขับไปตามเส้นทางนั้น
ตารางเปรียบเทียบหน้าที่ จป.บริหาร vs จป.หัวหน้างาน
| รายการเปรียบเทียบ | จป.บริหาร | จป.หัวหน้างาน | 
|---|---|---|
| ระดับตำแหน่งงาน | ผู้บริหารองค์กร หรือผู้บริหารส่วนงานหลัก เช่น กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการฝ่าย | หัวหน้าหน่วยงานหรือหัวหน้าทีมที่มีการควบคุมการทำงานของลูกจ้าง | 
| หน้าที่หลักตามกฎหมาย | กำหนดนโยบาย วางแผน จัดสรรงบประมาณ และกำกับดูแลระบบความปลอดภัย | ตรวจสอบ ปฏิบัติการเสนอแนะ และควบคุมให้ลูกน้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย | 
| มีอำนาจในการตัดสินใจระดับนโยบาย | ✅ | ❌ | 
| มีหน้าที่กำกับดูแลระดับบริหาร | ✅ | ❌ | 
| มีหน้าที่ควบคุมงานในระดับปฏิบัติการ | ❌ | ✅ | 
| จัดทำรายงานความปลอดภัย/เสนอแนะผู้บริหาร | ❌ | ✅ | 
| อบรมที่ต้องผ่าน | อบรม จป.บริหาร (ตามประกาศฯ ปี 2554) | อบรม จป.หัวหน้างาน (ตามประกาศฯ ปี 2554) | 
| หน่วยงานบังคับใช้ | กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน | กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน | 
| ความถี่ในการอบรม | 1 ครั้ง ภายใน 30 วันก่อนเริ่มปฏิบัติงาน | 1 ครั้ง ภายใน 30 วันก่อนเริ่มปฏิบัติงาน | 
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการแต่งตั้ง จป. ไม่ตรงระดับ
การไม่แต่งตั้ง จป. ให้ถูกต้องตามระดับหน้าที่ในองค์กร มีผลทั้งทางกฎหมายและการบริหารองค์กร เช่น:
- 
ความเสี่ยงด้านกฎหมาย: องค์กรอาจถูกปรับหรือสั่งปรับปรุงแก้ไข หากตรวจพบว่าไม่มี จป. ในตำแหน่งที่กฎหมายกำหนด 
- 
ความเสี่ยงด้านการจัดการ: ขาดการวางแผนความปลอดภัยระดับองค์รวม ข้อมูลไม่ถึงระดับบริหาร นโยบายไม่ถูกสนับสนุน 
- 
ขวัญและกำลังใจของพนักงาน: หากไม่มีระบบความปลอดภัยที่ดี อาจเกิดความรู้สึกไม่มั่นใจในสถานที่ทำงาน 
แนะแนวการเลือกหลักสูตรอบรม จป ให้เหมาะสม
เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง องค์กรควรพิจารณาระดับของผู้เรียนให้สอดคล้องกับตำแหน่งจริงในองค์กร เช่น:
- 
ผู้จัดการฝ่าย, ผู้อำนวยการ, กรรมการผู้จัดการ ➤ ควรเข้าอบรมหลักสูตร เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับบริหาร (จป.บริหาร) 
- 
หัวหน้างาน, หัวหน้าช่าง, หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ ➤ ควรอบรมหลักสูตร เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับหัวหน้างาน (จป.หัวหน้างาน) 
👉 สนใจอบรมหลักสูตร จป.บริหาร สำหรับผู้บริหารองค์กร
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อบรม จป.บริหาร พร้อมใบเซอร์ โดย เซฟตี้เมมเบอร์
สรุป
ความเข้าใจในบทบาทของ จป.บริหาร และ จป.หัวหน้างาน เป็นกุญแจสำคัญในการวางระบบความปลอดภัยให้ครอบคลุมทุกระดับขององค์กร การแต่งตั้งบุคคลที่เหมาะสมในแต่ละตำแหน่ง ไม่เพียงช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ยังสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยที่ยั่งยืน ลดความเสี่ยงทั้งทางกายภาพและเชิงภาพลักษณ์ต่อองค์กรในระยะยาว
อ้างอิง:
- 
กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยฯ พ.ศ. 2549 
- 
ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน พ.ศ. 2554 
- 
เว็บไซต์กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน: www.labour.go.th 

 
														
