เมื่อพูดถึงความปลอดภัยในการทำงาน หนึ่งในหัวข้อสำคัญที่ไม่ควรถูกมองข้ามคือ “การอบรมดับเพลิงเบื้องต้น” ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันที่ได้รับการกำหนดไว้ในกฎหมายอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 และประกาศกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีข้อกำหนดชัดเจนว่า “ใคร” ควรได้รับการอบรมดับเพลิงบ้าง
พ.ร.บ. ความปลอดภัยฯ คืออะไร?
พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 เป็นกฎหมายหลักที่กำหนดหน้าที่ของนายจ้างและลูกจ้างในการดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับความปลอดภัยและอาชีวอนามัย โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน รวมถึงการควบคุมความเสี่ยงด้านไฟไหม้และเหตุฉุกเฉินอื่นๆ
ในส่วนของการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ร.บ. ความปลอดภัยฯ ได้ให้อำนาจแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในการออกกฎกระทรวงและประกาศเพิ่มเติม ซึ่งเป็นที่มาของข้อบังคับเกี่ยวกับการอบรมดับเพลิงในสถานประกอบกิจการ
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอบรมดับเพลิง
นอกจาก พ.ร.บ. ความปลอดภัยฯ แล้ว ยังมี กฎกระทรวง และ ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่:
- กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2555
- ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการฝึกอบรมดับเพลิงและซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ พ.ศ. 2552
ซึ่งระบุถึงขอบเขตและวิธีการดำเนินการในการฝึกอบรมลูกจ้าง รวมถึงการซ้อมอพยพหนีไฟในแต่ละปี
ใครต้องอบรมดับเพลิงบ้าง?
กลุ่มพนักงานในองค์กที่ต้องได้รับการอบรมดับเพลิงตามกฎหมาย ได้แก่:
กลุ่มบุคคล | เหตุผลตามกฎหมาย | ความถี่ในการอบรม |
---|---|---|
พนักงานทั่วไปที่ทำงานในสถานประกอบกิจการที่มีความเสี่ยงต่ออัคคีภัย | ตามกฎกระทรวง พ.ศ. 2555 | อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง |
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (จป.) ทุกระดับ | เพื่อให้สามารถจัดทำแผนป้องกันอัคคีภัย | ตามหลักสูตรอบรมเฉพาะของ จป. |
หัวหน้าชุดระงับอัคคีภัย | ตามประกาศฯ ปี 2552 ต้องมีการอบรมดับเพลิงขั้นต้น | อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง |
ลูกจ้างที่ได้รับมอบหมายให้เป็น “ชุดระงับอัคคีภัย” หรือ “ชุดอพยพหนีไฟ” | มีหน้าที่ตอบสนองกรณีเกิดเหตุ | อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง |
ผู้บริหารสถานประกอบการ | เป็นผู้วางแผนระบบความปลอดภัยทั้งองค์กร | ควรได้รับอบรมระดับความรู้เบื้องต้นถึงขั้นสูง |
หมายเหตุ: สถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ต้องมีการจัดฝึกอบรมดับเพลิงและซ้อมอพยพหนีไฟอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยจำนวนผู้เข้าอบรมต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่า 40% ของพนักงานทั้งหมด
รูปแบบการอบรมดับเพลิงขั้นต้น
การอบรมดับเพลิงเบื้องต้นตามกฎหมาย ต้องครอบคลุมเนื้อหาหลัก เช่น:
- ทฤษฎีการเกิดไฟและประเภทของไฟ
- ประเภทของเครื่องดับเพลิง และวิธีใช้งาน
- การป้องกันและระงับเหตุเบื้องต้น
- ฝึกปฏิบัติการใช้อุปกรณ์ดับเพลิงจริง
- สำหรับหลักสูตรอบรมดับเพลิงขั้นต้น และซ้อมอพยพหนีไฟ คุณจะได้ฝึกอพยพหนีไฟและแผนฉุกเฉินจริง
การอบรมต้องจัดโดยผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรองจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเท่านั้น
หากผู้อ่านสนใจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาการอบรม หรือวิธีเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฝึกอบรมดับเพลิงเบื้องต้น สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จาก บทความแนะนำการอบรมดับเพลิงเบื้องต้น
บทลงโทษกรณีไม่จัดอบรมดับเพลิงขั้นต้น ตามกฎหมาย
หากนายจ้างไม่ดำเนินการจัดการฝึกอบรมหรือซ้อมอพยพหนีไฟตามที่กฎหมายกำหนด อาจเข้าข่ายการฝ่าฝืน พ.ร.บ. ความปลอดภัยฯ และมีโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท ตามมาตรา 57
ประโยชน์ของการอบรมดับเพลิงขั้นต้นต้น
- ลดความสูญเสียจากเหตุเพลิงไหม้ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
- สร้างความมั่นใจแก่พนักงานในการรับมือกับเหตุฉุกเฉิน
- เพิ่มศักยภาพขององค์กรด้านการบริหารความเสี่ยง
- สร้างภาพลักษณ์ขององค์กรที่มีความรับผิดชอบและปลอดภัย
- ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายและไม่ถูกดำเนินคดี
สรุป
การอบรมดับเพลิงขั้นต้นไม่ใช่เพียงการปฏิบัติตามกฎหมาย แต่คือการลงทุนในความปลอดภัยของบุคลากรและองค์กร การเข้าใจว่าใครควรได้รับการอบรม และการจัดให้มีการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ คือสิ่งที่ทุกองค์กรควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงจากเหตุอัคคีภัยแล้ว ยังเป็นการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในสถานที่ทำงานอีกด้วย
การปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ความปลอดภัยฯ อย่างถูกต้อง ย่อมส่งผลดีต่อทั้งองค์กรและสังคมโดยรวม
อ้างอิง
- พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554. ราชกิจจานุเบกษา.
- กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยฯ พ.ศ. 2555. กระทรวงแรงงาน.
- ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการฝึกอบรมดับเพลิงและซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ พ.ศ. 2552.