อยากเป็นผู้จัดคอนเสิร์ต ต้องเริ่มต้นยังไง?

concert promoter หรือ ผู้จัดคอนเสิร์ต มีบทบาทสำคัญในวงการเพลง พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดระเบียบ การตลาด และการจัดการกิจกรรมคอนเสิร์ต รวมไปถึงการรับผิดชอบเกี่ยวกับเครื่องเสียงงานคอนเสิร์ต งานของผู้จัดคอนเสิร์ต

ได้แก่ การติดต่อศิลปิน การมองหาสถานที่ การเจรจาสัญญา การจัดการด้านลอจิสติกส์ (เช่น เครื่องเสียงคอนเสิร์ต แสง และการรักษาความปลอดภัย) การโปรโมตงาน และการจัดการด้านการเงิน โดยเราเชื่อว่า ผู้จัดคอนเสิร์ต ถือเป็นหนึ่งในความฝันของใครหลายๆ คน ดังนั้น ในวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเริ่มต้นเพื่อเป็นผู้จัดงานคอนเสิร์ต ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง และมีอะไรบ้างที่ต้องรู้

การเรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานด้านดนตรี

เริ่มต้นด้วยการเรียนรู้พื้นฐานของการผลิตดนตรีและการจัดงานผ่านคอร์สต่างๆ สิ่งเหล่านี้อาจเป็นในวิทยาลัย มหาวิทยาลัย หรือแม้แต่คอร์สทางออนไลน์ มองหาหลักสูตรที่สอนเกี่ยวกับการจัดการกิจกรรมดนตรี ความเข้าใจในธุรกิจเพลง และการวางแผนกิจกรรม ความรู้นี้เป็นการวางรากฐานสำหรับการทำความเข้าใจว่าคอนเสิร์ตจะเริ่มต้นได้อย่างไร

มองหาประสบการณ์การทำงาน

ประสบการณ์ในสถานที่จริงถือเป็นสิ่งสำคัญ ลองทำงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานหรือที่สถานที่แสดงดนตรี นี่อาจเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่การช่วยเหลือในเทศกาลดนตรีท้องถิ่นไปจนถึงการทำงานที่คอนเสิร์ตฮอลล์ การฝึกงานเป็นวิธีการที่ดีในการเริ่มต้น เนื่องจากมักให้ความรู้เกี่ยวกับงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการโปรโมตคอนเสิร์ต งานเหล่านี้จะสอนทักษะในโลกแห่งความเป็นจริง เช่น การจัดกิจกรรม การติดต่อกับศิลปิน และการทำความเข้าใจความต้องการของผู้ชม

เรียนรู้เกี่ยวกับการโฆษณา

ส่วนสำคัญของการเป็นผู้จัดคอนเสิร์ต คือ การทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นเต้นกับงานนี้ ซึ่งหมายความว่า คุณจำเป็นต้องรู้วิธีการทำตลาดและโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพ เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการต่างๆ ในการโปรโมตกิจกรรม เช่น โซเชียลมีเดีย โปสเตอร์ หรือโฆษณาทางทีวี การทำความเข้าใจว่าอะไรดึงดูดผู้คนให้มาชมคอนเสิร์ตและวิธีเข้าถึงผู้ชมเป้าหมายนั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย

จัดกิจกรรมดนตรีเล็กๆ

ฝึกฝนโดยเริ่มจากเล็กๆ จัดงานแสดงในท้องถิ่นหรืองานดนตรีเล็กๆ ในระแวกบ้าน เพราะประสบการณ์ตรงนี้มีคุณค่ามาก คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการประสานงานกับศิลปิน การมองหาสถานที่ ออกแบบระบบเครื่องเสียงคอนเสิร์ต การจัดการตั๋วต่างๆ และการดูแลให้งานดำเนินไปอย่างราบรื่น งานเล็กๆ แต่ละงาน คือ โอกาสในการเรียนรู้และเป็นก้าวสำคัญสู่งานใหญ่ๆ

ติดตามวงการดนตรี

ติดตามความเคลื่อนไหวของสิ่งที่เกิดขึ้นในวงการดนตรี ค้นคว้าข้อมูลคอนเสิร์ตที่ประสบความสำเร็จเพื่อทำความเข้าใจว่าอะไรทำให้พวกเขาได้รับความนิยม เรียนรู้เกี่ยวกับนักดนตรีและสไตล์ดนตรีที่แตกต่างกัน ความรู้นี้ช่วยในการเลือกศิลปินที่เหมาะสมสำหรับกิจกรรมของคุณและทำความเข้าใจว่าผู้ชมชื่นชอบอะไร

พัฒนาทักษะการเขียนของคุณ

การเขียนที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ คุณจะต้องเขียนข้อความส่งเสริมการขาย อีเมลถึงศิลปินหรือผู้ขาย และอาจรวมถึงข่าวประชาสัมพันธ์ด้วย การเขียนที่ดีช่วยในการสื่อสารความคิดของคุณอย่างชัดเจนและส่งเสริมให้ผู้คนอยากเข้าร่วมคอนเสิร์ตของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ

ฝึกฝนการออกแบบกราฟิก

การเรียนรู้การออกแบบกราฟิกบางอย่างอาจมีประโยชน์มาก ช่วยในการสร้างโปสเตอร์ ใบปลิว หรือโพสต์บนโซเชียลมีเดียที่สะดุดตา คุณไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่การรู้พื้นฐานสามารถช่วยให้สื่อส่งเสริมการขายโดดเด่นมากกว่าคนอื่นๆ ได้

หาคอนเนคชั่นต่างๆ 

การสร้างความสัมพันธ์ในอุตสาหกรรมเพลงถือเป็นสิ่งสำคัญ เข้าร่วมงานอุตสาหกรรม เทศกาลดนตรี และเวิร์คช็อป การสร้างคอนเนคชั่นสามารถเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ เช่น ความร่วมมือหรือการขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างความสัมพันธ์ที่สามารถช่วยในอาชีพการงานของคุณได้

สร้างผลงานและค้นหางาน

เมื่อคุณได้รับประสบการณ์แล้ว ให้รวบรวมผลงาน เช่น กิจกรรมที่คุณจัดหรือแคมเปญส่งเสริมการขายที่คุณดำเนินการ ผลงานที่ดีจะแสดงทักษะและประสบการณ์ของคุณ ใช้สิ่งนี้เมื่อสมัครงานโปรโมเตอร์คอนเสิร์ตหรือเมื่อนำเสนอบริการของคุณแก่ลูกค้า

การเลือกเครื่องเสียงที่เหมาะสม ก็เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นเราขอแนะนำ เครื่องเสียง JBL กลางแจ้ง เป็นอุปกรณ์เสียงที่ออกแบบมาเพื่อให้เสียงที่คมชัดและแข็งแรงในสภาวะกลางแจ้ง จุดเด่นของเครื่องเสียง JBL กลางแจ้งอยู่ที่ความทนทานต่อสภาวะแวดล้อมที่ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเช่นกันและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมที่สามารถให้กับผู้ฟังประทับใจ คุณสมบัติการรับประกันและบริการหลังการขายที่เครื่องเสียง JBL มีความน่าเชื่อถือ โดยมีศูนย์บริการหลากหลายที่สามารถช่วยเหลือคุณในกรณีที่คุณต้องการความช่วยเหลือ