ทำไมต้องให้พนักงานมีความรู้เรื่องการอบรมดับเพลิงขั้นพื้นฐานตามกฎหมาย

by administrator

ไฟ คืออะไร เกิดขึ้นได้ยังไง

“ไฟ” เป็นปฏิกิริยาเคมี ที่เรียกกันว่า “การเผาไหม้”  โดยไฟจะเกิดขึ้นได้ ต้องมีองค์ประกอบ 3 อย่าง ได้แก่

  • เชื้อเพลิง (Fuel)
  • ออกซิเจน (Oxygen)
  • ความร้อน (Heat)

หากครบทั้งสามองค์ประกอบแล้ว ก็จะสามารถเกิดเป็นไฟขึ้นได้  เรียกว่า “สามเหลี่ยมการเกิดไฟ” ซึ่งหากขาดองค์ประกอบใดไป จะไม่เกิดไฟขึ้น

องค์ประกอบในการเผาไหม้ มีอยู่  4 องค์ประกอบ คือ

  • เชื้อเพลิง (Fuel) คือ วัตถุที่สามารถทำปฏิกิริยากับออกซิเจนได้ อาจจะอยู่ในรูปของ ของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซ แต่ถ้าอยู่ในสถานะก๊าซ สามารถลุกติดไฟได้เร็วที่สุด
  • ออกซิเจน (Oxygen) คือ อากาศที่อยู่รอบๆ ตัวเรา ซึ่งในบรรยากาศปกติ จะมีออกซิเจนอยู่ประมาณ 21% ซึ่งในการเผาไหม้แต่ละครั้ง ต้องการออกซิเจนเพียง 16% เท่านั้น นั่นหมายความว่า ในสภาวะปกติ สามารถเกิดไฟได้ หากมีอีก 2 องค์ประกอบ
  • ความร้อน (Heat) คือ อุณหภูมิที่สามารถลุกติดไฟได้
  • ปฏิกิริยาลูกโซ่ (Chain Reaction) คือ การเผาไหม้อย่างต่อเนื่อง

วิธีการดับไฟ สามารถทำได้   3 วิธี ได้แก่

  1. กำจัดเชื้อเพลิง เช่น การขนย้ายวัสดุที่ติดไฟได้ออกจากกองไฟที่กำลังไหม้ การปิดวาล์วก๊าซ เป็นต้น
  2. ทำให้เย็นตัว หรือลดอุณหภูมิ เช่น การใช้น้ำฉีดเข้าไป ในกองไฟที่กำลังไหม้
  3. ทำให้อับอากาศ (ออกซิเจน) คือ การลดออกซิเจน ลงให้เหลือน้อยกว่า 16% เช่น การใช้ฝาหม้อปิดกะทะน้ำมันที่ไฟไหม้ เพื่อกำจัดออกซิเจน

ซึ่งในการดับไฟ ต้องเลือกวิธีที่เหมาะสม กับสถานะการนั้นๆ หากเราสามารถทำวิธีใดวิธีหนึ่งได้ ปฏิกิริยาลูกโซ่ก็จะถูกตัดลงด้วยเช่นกัน

ประเภทของไฟ มีอะไรบ้าง

แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ตามมาตรฐาน NFPA (National Fire Protection Association) ดังนี้

  1. ไฟประเภท A   ไฟไหม้เชื้อเพลิงธรรมดา เช่น ไม้ กระดาษ พลาสติก เป็นต้น
  2. ไฟประเภท B   ไฟไหม้เชื้อเพลิงเหลว ก๊าซ
  3. ไฟประเภท C   ไฟไหม้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีกระแสไฟฟ้าไหลอยู่
  4. ไฟประเภท D   ไฟไหม้โลหะ และสารเคมี
  5. ไฟประเภท K   ไฟไหม้น้ำมันทำอาหาร

ทำไมต้องมีความรู้ขั้นพื้นฐานในการดับไฟ

เราคงเคยได้ยินคำที่ว่า “โจรปล้น 10 ครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว”  เพราะถ้าโจรปล้น เรายังเหลือบ้าน แต่ถ้าไฟไหม้จะไม่เหลืออะไรเลย เพราะฉะนั้น หากมีความรู้พื้นฐานในการดับไฟ ย่อมเป็นผลดี

กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2555   ได้ระบุไว้ ในหมวด 8 “ข้อ 27 ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างไม่น้อยกว่าร้อยละสี่สิบของจำนวนลูกจ้างในแต่ละหน่วยงานของสถานประกอบกิจการรับการฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้น” นอกจากกฎหมายกำหนดว่าต้องอบรมดับเพลิงขั้นต้นแล้วสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า คือ การให้พนักงานในบริษัทมีความรู้ในการดับไฟ และสามารถทำได้จริง หากพบเจอเหตุการณ์จริง จะทำยังไงให้พนักงานสามารถทำได้ โดยไม่ตื่นตกใจจนทำอะไรไม่ถูก  นั่นคือการฝึกซ้อม ยิ่งซ้อมบ่อยเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลดีเท่านั้น เราต้องให้พนักงานในหน่วยงานนั้นๆ รู้จักเชื้อเพลิงในพื้นที่ที่ตนเองทำงานอยู่ หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง ก็จะสามารถดับไฟได้อย่างถูกวิธี และปลอดภัย

เมื่อพบไฟไหม้ ต้องทำอย่างไร

สิ่งแรกที่ต้องทำ เมื่อพบไฟไหม้ คือตั้งสติ และตะโกนเสียงดังๆ ว่า “ไฟไหม้” เพื่อให้คนที่อยู่ใกล้เคียง ได้ยิน เพื่อจะได้รู้ว่ามีไฟไหม้เกิดขึ้น และหากเราใช้ถังดับเพลิงเป็น ก็ให้ไปหยิบถังดับเพลิงที่อยู่บริเวณใกล้เคียงมาดับไฟ แต่หากเราใช้ถังดับเพลิงไม่เป็น เมื่อคนใกล้เคียง ได้ยินที่เราตะโกน จะได้มาช่วยเราดับไฟ ยิ่งเราสามารถดับไฟได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีมากเท่านั้น เพราะหากยิ่งใช้เวลานาน เพลิงก็จะยิ่งลุกลามมากขึ้น และควบคุมสถานการณ์ได้ยากขึ้นด้วยเช่นกัน

ถังดับเพลิงใช้ยังไง

เราคงเคยได้ยิน จนคุ้นหู ว่าวิธีการใช้ถังดับเพลิง คือ “ดึง ปลด กด ส่าย” ฟังดูเหมือนง่าย แต่ถ้าลองใช้จริง ก็จะรู้ว่ามันไม่ง่าย แต่ก็ไม่อยาก เราลองมาดูวิธีการใช้ถังดับเพลิงกัน

  • ดึง คือ ดึงสลักออกจากถังดับเพลิง
  • ปลด คือ ปลดสายฉีดของถังดับเพลิงออกจากตัวถัง โดยจับบริเวณปลายสายฉีดแล้วดึงออกมา
  • กด คือ กดคันบีบของถังดับเพลิงเพื่อให้เคมีในถังออกมาใช้ในการดับเพลิง
  • ส่าย คือ การส่ายปลายสายฉีดไปมา เพื่อดับเพลิง ควรฉีดไปยังฐานของเพลิง ไม่ควรฉีดไฟที่เปลวเพลิง
    ในการใช้ถังดับเพลิง ผู้ฉีดต้องอยู่เหนือลม เพราะหากอยู่ใต้ลม เวลาที่เราฉีดออกไป สารเคมีก็จะตีกลับมาหาผู้

ฉีดเอง และที่สำคัญหากมีการใช้ถังดับเพลิงไปแล้ว ต้องแจ้งผู้รับผิดชอบ เพื่อนำถังดับเพลิงที่ผ่านการใช้งานแล้ว ไปบรรจุใหม่ เป็นการเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

จากที่กล่าวมาข้างต้น หากเราต้องการให้เกิดความชำนาญ และสามารถปฏิบัติได้จริง สิ่งที่ดีที่สุด คือ การฝึกซ้อม และฝึกซ้อม เมื่อฝึกซ้อมบ่อย เวลาเจอเหตุการณ์จริง ก็จะทำได้ โดยไม่ตื่นตกใจ

You may also like